ว่าด้วยแบบหัดพูดภาษาเตี้ยจิว
อยากเขียนเกี่ยวกับแบบหัดพูดภาษาเตี้ยจิว (แต้จิ๋ว) ในวิกิซอร์ซ เพราะว่าทำใกล้เสร็จแล้ว
จุดเริ่มต้น
เราได้เห็นชื่อหนังสือ ‘แบบหัดพูดภาษาเตี้ยจิว (แต้จิ๋ว)’ ครั้งแรกตอนอ่านบทความตั้วเหี่ย 大兄 กับ อั้งยี่ 洪字 อนุทินลูกเจ๊กหลังเสพ ‘แมนสรวง’ ที่ลงใน 101 World ตอนหนึ่งของบทความค้นหารากศัพท์ของคำ ‘ตั่วเหี่ย’ ในเอกสารต่างๆ แล้วก็อ้างอิงหนังสือชื่อ ‘แบบหัดพูดภาษาแต้จิ๋ว’ ทำให้เรารู้สึกว่า เออแฮะ มีหนังสือเรียนภาษาแต้จิ๋วที่เขียนสมัย ร.6 ด้วยแฮะ อยากอ่าน แต่ไม่รู้จะไปอ่านที่ไหน
หลายวันต่อมาก็นึกเรื่องนี้ขึ้นได้ เลยลองค้นในกูเกิ้ลดู ปรากฏว่าหอสมุดแห่งชาติได้สแกนหนังสือเล่มนี้และทำเป็นอีบุ๊กเรียบร้อยแล้ว มีหน้าตัวอย่างในเว็บ ส่วนเล่มเต็มต้องอ่านในแอปของหอสมุดชื่อ NLT Library เราไม่เคยรู้จักแอปนี้มาก่อน ก็ลองลงแอปแล้วยืมมาอ่าน
ขั้นตอนคือ
- ลงแอปในโทรศัพท์
- สมัครสมาชิก (ใช้เลขบัตรประชาชน)
- กดยืม
- อ่าน
ดีใจที่หอสมุดแห่งชาติทำอีบุ๊กเล่มนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าอยากอ่านก็ต้องไปที่หอสมุดจริงๆ แต่หลังจากอ่านไปสักพักก็คิดว่า ถ้าหนังสือเล่มนี้ลิขสิทธิ์หมดอายุแล้วและมีคนนำมาเผยแพร่ออนไลน์แบบในห้องสมุดวัชรญาณหรือวิกิซอร์ซ ก็คงจะดีเหมือนกัน เพราะจะได้เสิร์ชหาคำศัพท์ได้
คำถามแรกก็คือลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้ยังมีอายุอยู่ไหม
เลยไปค้นรายละเอียดหนังสือดู สรุปได้ว่าลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้หมดอายุแล้ว ถือว่าเป็นสาธารณสมบัติ เพราะฉะนั้นเอามาเผยแพร่ต่อได้ คิดว่าเอามาลงที่วิกิซอร์ซละกัน
วิกิซอร์ซ
เวลาอยากอ่านหนังสือเก่าที่ลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว ง่ายที่สุดก็เข้าเว็บห้องสมุดวัชรญาณ ไม่ก็วิกิซอร์ซ แต่ว่าวิกิซอร์ซเป็นโครงการพี่น้องกับวิกิพีเดีย ใครๆ ก็เข้าไปแก้วิกิซอร์ซได้ เท่ากับว่าใครๆ (เช่นเราเอง) ก็สามารถเอา ‘แบบหัดพูดภาษาเตี้ยจิว’ มาใส่ในวิกิซอร์ซได้
ถึงไม่เคยใช้วิกิซอร์ซมาก่อน ก็รู้สึกว่าการใช้งานไม่ค่อยยากเท่าไหร่ สามารถกดหน้า “ความช่วยเหลือ” แล้วอ่านวิธีใช้ และดูว่าคนอื่นทำกันอย่างไร ถ้ามีคำถาม สามารถถามคำถามในเซ็นเตอร์พ้อยท์ไม่ก็ในดิสคอร์ด ซึ่งก็มีผู้ใจดีช่วยตอบคำถามให้เรา เวลาที่ทำผิดพลาด (อย่างเช่นใส่ข้อมูลในแม่แบบผิด) หลายครั้งก็มีผู้ใจดีมาแก้ไขให้
ขั้นตอนการใช้งานอ่านจากวิกิซอร์ซโดยตรงจะง่ายกว่า หากจะสรุปคร่าวๆ ก็คือ อัปโหลดไฟล์หนังสือ (ถ้ามี) สร้างดัชนี (เป็นหน้าที่ลิงก์ไปหน้าต่างๆ ในหนังสือ) สร้างหน้าต่างๆ ใส่ข้อความที่ถอดออกมาจากรูปภาพในหน้าเหล่านั้น กดเผยแพร่ แล้วทำหน้าผสาน ซึ่งรวมเนื้อหาจากหน้าต่างๆ มาไว้ด้วยกัน
วิกิซอร์ซมี OCR ถอดข้อความจากภาพอัตโนมัติให้กดใช้ แต่ถ้าเป็นคำแต้จิ๋ว OCR จะอ่านไม่ค่อยออกเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นก็ต้องแก้เยอะเหมือนกันหลังได้ผลลัพธ์จาก OCR และต้องใช้เวลาสักพักใหญ่กว่าจะถอดข้อความแต่ละหน้าเสร็จ
หนังสือมีเกือบสองร้อยหน้า ใช้เวลาทำหลายเดือน มีช่วงที่มีไฟ ช่วงที่ไฟมอด งานยุ่ง หันไปทำอย่างอื่น โฆษณาหาคนมาช่วย ช่วงที่ขี้เกียจทำแล้ว ฯลฯ แต่ที่สำคัญคือเราไม่ได้ทำคนเดียว มีหลายท่านที่ช่วยแก้ไขงาน พิสูจน์อักษร ฯลฯ ด้วย จนตอนนี้เหลือการพิสูจน์อักษรอย่างเดียว
คำถามหลักคือ “ทำไปทำไม” เหตุผลของเราไม่มีอะไรพิเศษ เราไม่ได้เกี่ยวข้องกับวงการวิชาการ วงการห้องสมุด วงการภาษาศาสตร์ ภาษาแต้จิ๋ว ฯลฯ อะไรทั้งนั้น แค่หลังจากที่ได้ใช้บริการวิกิซอร์ซและห้องสมุดวัชรญาณมานาน ก็สนใจและอยากทำ
ว่าด้วยเรื่องของวรรณยุกต์
มาพูดถึงตัวแบบหัดพูดฯ ดีกว่า ครั้งแรกที่อ่าน เราเต็มไปด้วยคำถาม…
ว่าทำไมวรรณยุกต์ถึงผันแบบนี้
หนังสือเล่มนี้เขียน “ลื้อ” “เจี้ยะปึ้ง” “ฮ้อ” “ตั้ว” แต่ที่เราเคยได้ยินมาตลอดคือ “ลื่อ” “เจียะปึ่ง” “ฮ่อ” “ตั่ว” อ่านออกเสียงตามหนังสือเล่มนี้ให้คนอื่นฟัง คนอื่นก็บอกว่าไม่เคยได้ยิน
ตอนแรกคิดว่า อาจจะเป็นการออกเสียงสำเนียงอื่น หรือว่าเขียนรูปวรรณยุกต์ไม่ตรงกับเสียงอ่าน แต่ว่าเราเคยอ่านหนังสือแต้จิ๋วเล่มอื่นที่สะกดทำนองนี้เหมือนกัน เลยคิดว่า คงไม่ใช่ข้อผิดพลาด คิดไปคิดมาจนนึกออกว่าทำไม
หนังสือเล่มนี้เขียน ร.ศ. 131 (เท่ากับ พ.ศ. 2455) ร้อยกว่าปีก่อน
จำได้ว่าเคยอ่านบทความเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของเสียงวรรณยุกต์ในภาษาไทย ของ อ. พิทยาวัฒน์ พิทยาภรณ์ มีข้อมูลว่าร้อยกว่าปีก่อนคนไทยออกเสียงวรรณยุกต์ไม่เหมือนกับในปัจจุบัน โดยเฉพาะเสียงโทที่จะออกเป็นเสียงกลาง-ตก (เดาเอาเองว่าคงฟังคล้ายๆ เสียงเอกในปัจจุบัน ไม่ก็คล้ายๆ กับตอนต้นของวรรณยุกต์เสียงสามในภาษาจีนกลาง) กับเสียงตรีที่เป็นเสียงสูง-ตก (คงจะคล้ายเสียงโทในปัจจุบัน) สามารถดูภาพพล็อตลักษณะเสียงวรรณยุกต์ได้จากบทความ (แบบหัดพูดฯ เขียน พ.ศ. 2455 เท่ากับ ค.ศ. 1912 คงเทียบพล็อต ค.ศ. 1908 ได้ใกล้เคียงที่สุด)
โดยสรุปคือ สมัยนั้นคนไทยน่าจะออกเสียง “ลื้อ” ว่า “ลื่อ” นั่นแหละ เลยเขียน 汝 เป็น “ลื้อ” และออกเสียง “ตั้ว” ว่า “ตั่ว” เลยเขียน 大 เป็น “ตั้ว”
ลองเอาคำศัพท์มาเทียบดู ได้ตารางนี้
| เสียงวรรณยุกต์แต้จิ๋ว | ลักษณะเสียงแต้จิ๋วปัจจุบัน | เทียบวรรณยุกต์ไทยปัจจุบัน | เทียบวรรณยุกต์ไทยในแบบเรียนฯ | ตัวอย่าง |
|---|---|---|---|---|
| 1 | 33 กลางเรียบ | สามัญ | สามัญ | 貓 (แมว) ngieu1 เงียว -> เงียว |
| 2 | 51 สูงตก | โท | ตรี | 汝 (คุณ) le2 ลื่อ -> ลื้อ |
| 3 | 213 ต่ำ-ตก-ขึ้น | เอก | เอก | 去 (ไป) ke3 ขื่อ -> ขื่อ |
| 4 | 2 ต่ำ (ตามด้วยเสียงกัก) | เอก | โท | 隻 (ตัว ลักษณนาม) ziah4 เจียะ -> เจี้ยะ |
| 5 | 55 สูงเรียบ | ตรี | ตรี | 漁 (ปลา) he5 ฮื้อ -> ฮื้อ |
| 6 | 25 ต่ำ-ขึ้นสูง | จัตวา | จัตวา | 二 (สอง) no6 หนอ -> หนอ |
| 7 | 21 ต่ำ-ตก | เอก | โท | 大 (ใหญ่) dua7 ตั่ว -> ตั้ว |
| 8 | 5 สูง (ตามด้วยเสียงกัก) | ตรี | ตรี | 食 (กิน) ziah8 เจี๊ยะ -> เจี๊ยะ |
หมายเหตุ: อ้างอิงเสียงวรรณยุกต์แต้จิ๋วจาก mogher https://www.mogher.com/docs/tone
เพราะฉะนั้นตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็ควรระวังคำแต้จิ๋วที่สะกดด้วยเสียงวรรณยุกต์ตรีกับโท
- คำที่สะกดเป็นเสียงวรรณยุกต์โท มาจากคำแต้จิ๋วเสียง 4 กับ 7 ปัจจุบันจะเทียบเสียงเป็นเสียงวรรณยุกต์เอก (“ตั้ว” เป็น “ตั่ว”)
- คำที่สะกดเป็นเสียงวรรณยุกต์ตรี มาจากคำแต้จิ๋วเสียง 2, 5, 8 ต้นฉบับได้ทำตัวหนาคำแต้จิ๋วเสียง 5 ไว้แล้ว เท่ากับว่า ในหนังสือนี้ ถ้าเห็นคำแต้จิ๋วเสียงวรรณยุกต์ตรีที่ทำตัวหนา ก็คือคำแต้จิ๋วเสียง 5 (ปัจจุบันมักเทียบเป็นเสียงตรีในภาษาไทย) ถ้าไม่ได้ทำตัวหนา แต่ว่าเป็นเสียงกัก (สะกดด้วยแม่ ก กา สระสั้น หรือว่าแม่ กก กบ กด) ก็คือคำแต้จิ๋วเสียง 8 (มักเทียบเป็นเสียงตรีเหมือนกัน) และถ้าไม่ได้เป็นเสียงกัก ก็คือคำแต้จิ๋วเสียง 2 (มักเทียบเป็นเสียงโทในภาษาไทย)
ส่วนตัวสะกดเช่น แม่กน กับแม่กด ซึ่งปัจจุบันภาษาแต้จิ๋วไม่มีใช้แล้ว หนังสือสอนภาษาแต้จิ๋วเล่มอื่นในสมัยก่อน เช่น Handbook of the Swatow Vernacular (พิมพ์ปี 1886) ก็มีบันทึกคำศัพท์ตัวสะกดแม่กนกับแม่กดไว้เช่นกัน แสดงว่าภาษาแต้จิ๋วสมัยก่อนคงมีใช้งาน ก่อนจะเปลี่ยนแม่กนเป็นแม่กง (เช่น 新 “ซิน” เป็น “ซิง”) และแม่กดเป็นแม่กก (เช่น 日 “ยิด” เป็น “ยิก”)
เสียงนาสิกในต้นฉบับบางครั้งก็แตกต่างจากแบบที่ใช้กันในปัจจุบัน (我 หนังสือเล่มนี้สะกดเป็น “อั๊ว†” แบบมีเสียงขึ้นจมูกด้วย ซึ่งเราไม่เคยได้ยินเลย ฯลฯ)
ความรู้ใหม่ที่ได้คือ “ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้” ที่พอถึงตรุษจีนก็จะมีคนออกมาอธิบายว่า อ่านว่า “ซิงเจียหยู่อี่ ซิงนี้ฮวกไช้” (ที่จริงๆ น่าจะเป็น ฮ้วกไช้?) ต่างหาก ถ้าเอามาเปลี่ยนเสียงตามหลักการข้างบน “ซิน” เป็น “ซิง”, “ยู่” เป็น “หยู่” ก็จะตรงเหมือนกัน (แต่ “ฮวด” จะกลายเป็น “หวก” น่ะสิ…)
แก้ไขเพิ่มเติม 4/4/67: เราอยากทดสอบดูว่าถ้าเปลี่ยนเสียงตามการวิเคราะห์นี้แล้ว จะตรงกับแต้จิ๋วปัจจุบันแค่ไหน ก็เลยลองเขียนโค้ดเปลี่ยนเสียงแบบพื้นฐานดู แล้วลงผลลัพธ์ทั้งเล่ม (แบบไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องเพิ่มเติม) ไว้ในกูเกิ้ลไดรฟ์ มีจุดที่ยังผิดพลาดพอสมควรและใช้อ้างอิงไม่ได้ แต่ดูสะดวกดี
เสาชิงช้าและแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อร้อยปีก่อน
ความรู้สึกตอนเราอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็สนุกดี
- บท “ว่าด้วยการขี่รถลาก” มีประโยคตัวอย่างเป็นการต่อราคาขึ้นรถลากไปเสาชิงช้าทั้งก่อนขึ้นและตอนจ่ายเงิน…
- บท “ว่าด้วยร้านขายเครื่องอาหารแห้ง” ร้านอาหารแห้งมีสินค้าเป็น “ไข่เมืองจีน” ทำให้สงสัยมากว่าทำไม (แล้วไข่เมืองไทยล่ะ) เลยได้ไปค้นดู พบบทความชื่อ ประวัติการเลี้ยงและการส่งเสริมไก่ในประเทศไทย โดยหลวงสุวรรณวาจกกสิกิจ เพิ่งรู้ว่าสมัยนั้นคนไทยไม่นิยมบริโภคไข่ จึงไม่นิยมเลี้ยงไก่เพื่อขายไข่ และนำเข้าไข่ไก่จากซัวเถา มีความเชื่อด้วยว่า ไทยไม่สามารถเลี้ยงไก่เอาไข่ได้ดีเท่าเมืองหนาว ทำไปก็ล้มเหลว
- บท “ว่าด้วยการนั่งเรือกลไฟไปเที่ยวตามลำน้ำ” ถึงไม่ได้ระบุชื่อ แต่น่าจะเป็นการบรรยายภาพแม่น้ำเจ้าพระยาสมัย ร. 6 จริงๆ ล่ะ สังเกตได้จากประโยค “ปากคลองบางหลวงมีป้อม” ก็คือคลองบางกอกใหญ่กับป้อมวิไชยประสิทธิ์
- ได้เห็นการใช้คำแบบที่สมัยนี้ไม่ใช้กันแล้ว อย่างเช่น “ผ่าน” แบบที่ใช้ใน “แพงนัก, ท่านอย่าผ่านราคา.” (สมัยนี้คงพูดประมาณว่า แพงจัง อย่าอัปราคาสิ) กับ “แล้ว” แบบที่ใช้ใน “กี่วันจะแล้ว” (กี่วันจะเสร็จ)
ดีใจที่ได้อ่านเล่มนี้ ขอบคุณ “นายไต้เงี้ยบ” หอสมุดแห่งชาติ และชาววิกิซอร์ซ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจ